สนใจติดต่อโทร >> 099-369-4654, 063-249-8795
การเตรียมข้อมูลหลักเพื่อเริ่มใช้งานระบบ
หากท่านเข้าใช้งานระบบ DMART ในครั้งแรก ให้เข้าสู่ระบบโดยใช้
Username: system
Password: 123
หมายเหตุ: หลังจากเข้าสู่ระบบแล้วสามารถเพิ่มผู้ใช้งานและเปลี่ยน username/password ภายหลังได้
1.ก่อนเริ่มต้นใช้โปรแกรม dmart ในการบันทึกข้อมูลของกิจการจริงอาจมีข้อมูลตัวอย่างที่ใช้ในการทดลองอยู่ ให้ท่านทำการล้างข้อมูลทดลองออกก่อน โดยสามารถเลือกล้างเฉพาะข้อมูลหลักบางประเภทหรือล้างทั้งหมดเลยก็ได้ ส่วนเอกสารเคลื่อนไหวจะล้างออกหมดทุกกรณีถ้าใช้เมนูนี้
2.ให้เตรียมข้อมูลหลักเพื่อใช้ประกอบการเอกสารต่างๆในระบบ
2.1 ข้อมูลหลักทั่วไป
รายชื่อผู้ผลิต (เพิ่มหรือไม่ก็ได้)
รายชื่อพนักงานขาย/Salesman (เพิ่มหรือไม่ก็ได้)
จังหวัด (มีข้อมูลเริ่มต้นให้แล้ว)
2.2 ข้อมูลธนาคารและการเงิน
2.3 เพิ่มข้อมูลผู้ใช้งานและกำหนดสิทธิ์
2.4 ข้อมูลกลุ่มสินค้าและสินค้า รวมทั้งการตั้งค่าที่เกี่ยวข้องกับสินค้า
การตั้งราคาขายในระบบ dmart สามารถตั้งได้หลายรูปแบบ เพื่อให้ตรงกับความต้องการแต่ละธุรกิจดังนี้
ถ้าเป็นสินค้าชนิดเดียวกันที่มีการซื้อ/ขายด้วยหลายหน่วยนับและมีบาร์โค้ดไม่ซ้ำกันแต่ละหน่วย
ให้ท่านเพิ่มรายการสินค้าเท่ากับจำนวนหน่วยนับที่มี เช่น ชิ้น แพ็ค ลัง ก็ให้เพิ่มสินค้า 3 รหัสรายการ
หมายเหตุ: หากมีการแตกหน่วยขนาดใหญ่มาเป็นหน่วยขนาดย่อยด้วยเช่น ซื้อมาเป็นลังแต่ขายเป็นแพค/ชิ้น ให้ตั้งค่าฟังก์ชั่นสินค้าชุดเพื่อให้สะดวกเวลาซื้อขาย
2.5 เพิ่มข้อมูลลูกค้า
2.6 เพิ่มข้อมูลผู้จำหน่าย
2.7 การกำหนดเครื่องเก็บเงินและอุปกรณ์ที่ใช้ร่วมกับระบบ
2.8 ตั้งค่าใช้ระบบเปิด-ปิดกะ (กรณีที่ใช้งาน)
3.ในกรณีที่สามารถระบุจำนวนสินค้าเริ่มต้นได้ก่อนเริ่มใช้ระบบทำการซื้อขายสามารถบันทึกยอดจำนวนสินค้าตั้งต้นก่อนบันทึกเอกสารรับ-จ่ายได้เลย จะทำให้สามารถเช็คจำนวนสินค้าคงเหลือที่แท้จริงเมื่อเกิดการซื้อขาย
3.1 กรณีที่เป็นสินค้าที่มีเลขประจำตัว imie/serial no จะต้อง -> ใช้วิธีบันทึกซื้อสินค้าและลงทะเบียน serial number/imei
3.2 กรณีเป็นสินค้าทั่วไปที่ไม่มีเลขประจำตัวและต้องการบันทึกประวัติการซื้อ -> ใช้วิธีบันทึกซื้อสินค้า
3.3 กรณีเป็นสินค้าที่ไม่มีเลขประจำตัวและไม่ต้องการบันทึกประวัติการซื้อ -> ใช้วิธีนับสต๊อก+ปรับปรุงสต๊อก
หมายเหตุ: กรณีถ้าเป็นสินค้าที่ไม่มี imie/ serial no ที่ยังไม่พร้อมระบุจำนวนสินค้าตั้งต้น สามารถบันทึกเอกสารซื้อขายให้จำนวนสินค้าคงเหลือติดลบก่อนได้ แล้วทยอยนับสต๊อกและบันทึกปรับปรุงสต๊อกในภายหลังโดยสามารถปรับทั้งหมดหรือปรับทีละหมวดสินค้าก็ได้ หลังจากนั้นสต๊อกสินค้าที่ได้ปรับสต๊อกแล้วคำนวณคงเหลือจะตรงกับจำนวนสินค้าที่มีอยู่จริง
4.การบันทึกซื้อสินค้า-จ่ายชำระ-เพิ่มหนี้-ลดหนี้-บันทึก รายละเอียดLot สินค้า และค่าใช้จ่ายต่างๆ
4.1 การจ่ายมัดจำ
4.2 การซื้อสินค้า
4.3 การจ่ายชำระเงิน
4.4 การบันทึกรายละเอียด Lot สินค้า
4.5 บันทึกประวัติทะเบียนสินค้ามี serial ย้อนหลังเพื่อใช้ดูข้อมูล (ไม่มีในสต๊อกแล้ว)
4.6 การเพิ่มหนี้ลดหนี้ (ฝั่งผู้จำหน่าย)
4.7 การบันทึกค่าใช้จ่ายในกิจการเพิ่มเติม
5.การขายสินค้า-รับชำระเงิน-เพิ่มหนี้-ลดหนี้-บันทึก รายได้อื่นๆ
5.1 การรับมัดจำ
5.2 การเพิ่มใบเสนอราคา
5.3 การขายสินค้าที่มี imie/serail no
5.4 การขายสินค้าทั่วไปและอื่นๆ
5.5 การรับชำระเงิน
รับชำระเงินทั่วไป RCN (จากเอกสารขาย ORN)
รับชำระเงิน RRV (จากเอกสารขาย OTV)
5.6 การเพิ่มหนี้-ลดหนี้ (ฝั่งลูกค้า)
ลดหนี้และรับคืน OCN (ใช้คู่กับเอกสาร osn/orn)
ลดหนี้ (ไม่รับคืน) OCT (ใช้คู่กับเอกสาร otv/otr)
เพิ่มหนี้ ไม่มีVAT
5.7 การรับประกันสินค้าและการซ่อมสินค้ามี imie/ serail number (มือถือ,คอมพิวเตอร์,เครื่องใช้ไฟฟ้า ฯลฯ)
5.8 การเคลมสินค้า
5.9 ดูประวัติการขายและยกเลิก
5.10 การบันทึกรายได้เพิ่มเติมในกิจการ
6.การวางแผนการผลิต-ผลิตสินค้า-ขายสินค้าสั่งผลิต
– การเบิกวัตถุดิบเพื่อสั่งผลิต
7.การบริหารจัดการสต๊อกสินค้า
8.การจัดการภาษีมูลค่าเพิ่ม VAT
9.การทำโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขาย
9.1 โปรโมชั่นสะสมแต้ม
9.2 โปรโมชั่นอื่นๆ
10.การจัดการเอกสาร (ค้นหา/แก้ไข/ลบ/ส่งออกไฟล์/เลขที่เอกสาร)
11.การจัดการเช็คและความเคลื่อนไหวธนาคาร
12.การยืม/คืนสินค้า (ใช้ในการบันทึกการขอยืม/ให้ยืม/ย้ายสินค้ามาชั่วคราว)
13.การสำรองข้อมูล